Tuesday, August 5, 2014

หน่วยที่ 7 ลูกหนี้เจ้าหนี้หลายคน

หน่วยที่ 7  ลูกหนี้เจ้าหนี้หลายคน

1.    เกี่ยวกับการชำระหนี้ หนี้แบ่งออกเป็นสองประเภทคือ หนี้ที่การชำระหนี้ แบ่งชำระได้และแบ่งชำระไม่ได้
2.    หนี้ที่การชำระหนี้แบ่งชำระได้ ถ้ามีลูกหนี้หลายคนและเจ้าหนี้หลายคน ลูกหนี้แต่ละคนจะต้องรับผิดเพียงเป็นส่วนเท่าๆกัน และเจ้าหนี้แต่ละคนก็มีสิทธิที่จะได้รับแต่เพียงเป็นส่วนเท่าๆกัน
3.    ถ้าบุคคลหลายคนเป็นหนี้อันจะแบ่งกันชำระมิได้บุคคลเหล่านั้นต้องรับผิดเช่นอย่างลูกหนี้ร่วมกัน
4.    ถ้าการชำรับหนี้เป็นการอันจะแบ่งกันชำระมิได้ และมีบุคคลหลายคนเป็นเจ้าหนี้ ถ้าบุคคลเหล่านั้นมิได้เป็นเจ้าหนี้ร่วมลูกหนี้ได้แก่จะชำระหนี้ไว้ได้ประโยชน์แก่บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดด้วยกัน และเจ้าหนี้แต่ละคนจะเรียกชำระหนี้ได้ก็แต่เพื่อได้ประโยชน์ด้วยกันหมดทุกคนเท่านั้น
5.    ลูกหนี้ร่วม คือบุคคลหลายคนซึ่งมีหน้าที่ร่วมกันที่จะต้องรับผิดชำระหนี้ต่อเจ้าหนี้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้โดยสิ้นเชิง
6.    ในระหว่างลูกหนี้ร่วมกัน ต่างคนต่างต้องรับผิดชอบเป็นส่วนเท่าๆ กัน เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
7.    เจ้าหนี้ร่วมคือบุคคลหลายคนซึ่งมีสิทธิเรียกร้องการชำระหนี้โดยทำนอง ซึ่งแต่ละคนอาจเรียกให้ชำระหนี้สิ้นเชิงได้
8.    ในระหว่างเจ้าหนี้ร่วมกัน ต่างคนย่อมที่จะได้รับชำระหนี้เป็นส่วนเท่าๆ กัน เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
9.    ลูกหนี้ร่วมและเจ้าหนี้ร่วมเกิดขึ้นได้โดยผลของนิติกรรมและโดยบัญญัติของกฎหมาย

7.1    หนี้ที่การชำระหนี้แบ่งชำระได้และแบ่งชำระไม่ได้
1.    หนี้ที่การชำระหนี้แบ่งชำระได้หมายถึงหนี้ที่สามารถแบ่งชำระได้เป็นสัดส่วน โดยในที่สุดเมื่อรวมกันเข้าแล้วก็จะเป็นการใช้หนี้ครบถ้วนบริบูรณ์หนี้ที่การชำระหนี้แบ่งชำระไม่ได้ คือหนี้ซึ่งไม่สามารถแยกชำระเป็นสัดส่วนได้ โดยพิจารณาจากสภาพแห่งหนี้นั้น โดยบทบัญญัติกฎหมาย หรือโดยเจตนาของคู่กรณี
2.    ถ้าการชำระหนี้เป็นการอันจะแบ่งชำระได้ และมีบุคคลหลายคนเป็นลูกหนี้หรือมีบุคคลหลายคนเป็นเจ้าหนี้ เมื่อกรณีเป็นที่สงสัย ลูกหนี้แต่ละคนจะต้องรับผิดเพียงเป็นส่วนเท่า ๆ กัน และเจ้าหนี้แต่ละคนก็ชอบที่จะได้รับเพียงเป็นส่วนเท่า ๆ กัน
3.    ถ้าบุคคลหลายคนเป็นหนี้อันจะแบ่งกันชำระไม่ได้ บุคคลเหล่านั้นต้องรับผิดเช่นอย่างลูกหนี้ร่วมกัน
4.    ถ้าการชำระหนี้เป็นการอันจะแบ่งกันชำระมิได้ และมีบุคคลหลายคนเป็นเจ้าหนี้ ถ้าบุคคลเหล่านั้นมิได้เป็นเจ้าหนี้ร่วมกัน ลูกหนี้ได้แต่จะชำระหนี้ให้ได้ประโยชน์แก่บุคคลเหล่านั้นทั้งหมดด้วยกัน และเจ้าหนี้แต่ละคนจะเรียกชำระหนี้ได้ก็แต่เพื่อได้ประโยชน์ด้วยกันหมดทุกคนเท่านั้น วิธีเดียวกันนี้ใช้กับการที่ลูกหนี้วางทรัพย์เพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ด้วย
5.    ข้อความจริงใดที่เท้าถึงเจ้าหนี้คนหนึ่งเท่านั้น หาเป็นไปเพื่อคุณหรือโทษแก่เจ้าหนี้คนอื่นๆด้วยไม่

7.1.1      หนี้ที่การชำระหนี้แบ่งชำระได้
ในหนี้ที่แบ่งกันชำระได้นั้น ถ้ามีลูกหนี้หลายคนหรือมีเจ้าหนี้หลายคน ลูกหนี้หรือเจ้าหนี้หลายคนเหล่านี้มีความรับผิดซึ่งกันและกันอย่างไรบ้าง
มาตรา 290 บัญญัติว่าถ้าหนี้เป็นอันจะแบ่งกันชำระได้ และมีบุคคลหลายคนเป็นลูกหนี้ หรือมีบุคคลหลายคนเป็นเจ้าหนี้ เมื่อกรณีเป็นที่สงสัย ลูกหนี้แต่ละคนจะต้องรับผิดเพียงเป็นส่วนเท่าๆ กัน และเจ้าหนี้แต่ละคนก็มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้เพียงเป็นส่วนเท่าๆ กัน ที่กฎหมายบัญญัติว่าเมื่อกรณีเป็นที่สงสัยเพราะเหตุว่าการที่หนี้มีลูกหนี้หลายคนหรือเจ้าหนี้หลายคนนั้น มีความหมายได้สองประการ คืออาจเป็นลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ธรรมดา หรืออาจเป็นลูกหนี้ร่วมหรือเจ้าหนี้ร่วมก็ได้ ซึ่งมีผลในทางกฎหมายแตกต่างกันมาก เพราะการเป็นลูกหนี้ร่วมนั้นลูกหนี้ร่วมอาจถูกเรียกให้ชำระโดยสิ้นเชิง และการเป็นเจ้าหนี้ร่วมก็เช่นกันคือเจ้าหนี้มีสิทธิที่จะเรียกให้ลูกหนี้คนใดคนหนึ่งชำระหนี้โดยสิ้นเชิง ฉะนั้นเมื่อไม่มีพฤติการณ์แน่ชัดว่าลูกหนี้หลายคนหรือเจ้าหนี้หลายคนนั้นเป็นลูกหนี้ร่วมหรือเจ้าหนี้ร่วมแล้ว ให้ถือว่าเป็นลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ธรรมดา มีผลให้ลูกหนี้แต่ละคนมีส่วนรับผิดชอบในหนี้เพียงเป็นส่วนเท่าๆ กัน ส่วนเจ้าหนี้ก็มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้เพียงเป็นส่วนเท่าๆ กัน  ที่กฎหมายให้รับผิดชอบและรับชำระหนี้เพียงเป็นส่วนเท่าๆ กัน เฉพาะสิทธิระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้เท่านั้น ส่วนข้อตกลงระหว่างลูกหนี้หรือเจ้าหนี้มีไว้อย่างไร ก็ย่อมเป็นไปตามข้อตกลงการแบ่งส่วนกันก็ต้องเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างกัน

7.1.2      หนี้ที่การชำระหนี้แบ่งชำระไม่ได้
การชำระหนี้ที่แบ่งกันชำระไม่ได้หมายความว่าอย่างไร กฎหมายบัญญัติเกี่ยวกับการชำระหนี้ที่แบ่งชำระไม่ได้และมีบุคคลหลายคนเป็นเจ้าหนี้แต่มิใช่เจ้าหนี้ร่วมไว้อย่างไรบ้าง
การชำระหนี้ที่แบ่งชำระกันไม่ได้หมายถึงหนี้สินที่ไม่สามารถแบ่งกันได้เป็นส่วน หากแบ่งออกเป็นสัดส่วนแล้วจะไม่ทำให้การชำระหนี้ถูกต้องสมบูรณ์หรือทำให้สภาพแห่งหนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
หนี้ที่การชำระหนี้แบ่งชำระไม่ได้นั้น มาตรา 302 บัญญัติว่าถ้ามีลูกหนี้หลายคนหรือเจ้าหนี้หลายคนแต่ไม่ได้เป็นลูกหนี้ร่วมหรือเจ้าหนี้ร่วมลูกหนี้จะชำระหนี้ได้ก็แต่เฉพาะแต่ให้ได้ประโยชน์ แก่เจ้าหนี้ด้วยกันหมดทุกคนและเจ้าหนี้จะเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ก็เฉพาะแต่ให้ได้ประโยชน์แก่เจ้าหนี้ด้วยกันหมดทุกคนเท่านั้น นอกจากนี้ถ้าหากมีความจำเป็น เจ้าหนี้จะเรียกให้ลูกหนี้วางทรัพย์ไว้ ณ สำนักงานวางทรัพย์กระทรวงยุติธรรมเพื่อให้ได้ประโยชน์แก่เจ้าหนี้ด้วยกันหมดทุกคน หรือถ้าทรัพย์ไม่สมควรแก่การจะวางขอให้ศาลตั้งผู้พิทักษ์ทรัพย์เพื่อรักษาทรัพย์นั้นก็ได้

7.2    ลูกหนี้ร่วม
1. ลูกหนี้ร่วมคือ บุคคลหลายคนซึ่งมีหน้าที่ร่วมกันที่จะต้องรับผิดชำระหนี้ต่อเจ้าหนี้จนกว่าเจ้าหนี้จะได้รับชำระหนี้โดยสิ้นเชิงและเกิดขึ้นได้โดยนิติกรรมสัญญาและโดยบทบัญญัติของกฎหมาย
2. ลูกหนี้คนหนึ่งชำระหนี้ย่อมเป็นประโยชน์แก่ลูกหนี้คนอื่นด้วยการชำระหนี้ให้รวมถึงการใดๆ อันพึงกระทำแทนชำระหนี้ วางทรัพย์สินแทนชำระหนี้และหักกลบลบหนี้ด้วย
3. ลูกหนี้ร่วมกันคนหนึ่งมีสิทธิเรียกร้องอะไรลูกหนี้คนอื่นๆ จะเอาสิทธินั้นไปใช้หักกลบลบหนี้ไม่ได้
4.    การปลดหนี้ให้แก่ลูกหนี้ร่วมกันคนหนึ่งนั้นย่อมเป็นประโยชน์แก่ลูกหนี้คนอื่นๆ เพียงเท่าส่วนของลูกหนี้ที่ได้ปลดให้ เว้นแต่จะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่น
5. การผิดนัดของเจ้าหนี้ต่อลุกหนี้ร่วมคนหนึ่งย่อมเป็นคุณแก่ลูกหนี้คนอื่นๆ ด้วย
6. ข้อความจริงใด เมื่อเท้าถึงตัวลูกหนี้ร่วมกับคนใดๆ ย่อมเป็นไปเพื่อคุณและโทษแต่เฉพาะแก่ลูกหนี้คนนั้น เว้นแต่จะปรากฏว่าขัดกับสภาพแห่งหนี้นั้นเอง
7. ในระหว่างลูกหนี้ร่วมกัน ต่างคนต่างต้องรับผิดเป็นส่วนเท่าๆ กัน เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
8. ถ้าส่วนที่ลูกหนี้ร่วมกับคนใดคนหนึ่งจะพึงชำระเป็นอันจะเรียกเอาจากคนนั้นไม่ได้ยังขาดจำนวนอยู่เท่าไร ลูกหนี้คนอื่นๆ ก็ต้องรับใช้ แต่ถ้าลูกหนี้ร่วมกันคนใดเจ้าหนี้ได้ปลดให้หลุดพ้นจากหนี้อันร่วมกันนั้น ส่วนที่ลูกหนี้คนนั้นจะพึงต้องชำระหนี้ตกเป็นพับแก่เจ้าหนี้ไป

7.2.1      ลักษณะของลูกหนี้ร่วม
ลูกหนี้ร่วมมีลักษณะสำคัญอย่างไร อธิบายและยกตัวอย่างประกอบ
ลักษณะสำคัญของลูกหนี้ร่วมตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 291 นั้นมีลักษณะสำคัญดังนี้คือ ลูกหนี้ร่วมแต่ละคนอาจถูกเรียกร้องให้ชำระหนี้โดยสิ้นเชิง ทั้งนี้สุดแล้วแต่เจ้าหนี้จะเรียกให้ลูกหนี้ร่วมคนใดชำระ ถ้าลูกหนี้ร่วมชำระหนี้โดยสิ้นเชิงแล้ว เจ้าหนี้จะเรียกให้ลูกหนี้คนอื่นชำระหนี้อีกไม่ได้ เพราะลูกหนี้มีหน้าที่ชำระหนี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าหากเจ้าหนี้เรียกถ้าหากเจ้าหนี้เรียกให้ลูกหนี้คนใดชำระหนี้แล้วแต่ยังได้ไม่ครบ ลูกหนี้ร่วมทุกคนก็ยังคงต้องผูกพันที่จะถูกเรียกชำระหนี้อยู่ จนกว่าเจ้าหนี้จะได้รับชำระหนี้โดยสิ้นเชิง เช่น ก. ข. ค. เป็นลูกหนี้ร่วมเงินกู้ ง. ไป 3,000 บาท เมื่อหนี้ครบกำหนดชำระ ง. จะเรียกเก็บให้ ก. หรือ ข. หรือ ค. คนใดคนหนึ่งหรือทุกคนชำระหนี้ให้แก่ ง. จนสิ้นเชิงได้ หากเรียกจากคนใดคนหนึ่งได้เพียง 1,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 2,000 บาท ก. ข. ค. ทั้งสามคนก็ยังคงต้องรับผิดร่วมกันชำระหนี้ให้แก่ ง. อยู่จนกว่า ง. จะได้รับชำระหนี้ทั้งหมด

7.2.2      ผลแห่งการเป็นลูกหนี้ร่วม
ผลประโยชน์ที่ได้จากการเป็นลูกหนี้ร่วมนั้นมีอะไรบ้าง
การเป็นลูกหนี้ร่วมนั้น ลูกหนี้แต่ละคนย่อมมีผลประโยชน์ได้เสียร่วมกัน ผลประโยชน์ที่ลูกหนี้ร่วมได้ร่วมกันนั้นคือ
1) ความไม่สมบูรณ์แห่งหนี้ ไม่ว่าหนี้นั้นจะไม่สมบูรณ์ด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม ย่อมทำให้หนี้นั้นเกิดไม่ได้ เมื่อไม่มีหนี้เกิดขึ้น ลูกหนี้ทุกคนก็ไม่ต้องรับผิดในหนี้เช่นหนี้ที่เกิดจากการเล่นการพนัน ซึ่งกฎหมายบัญญัติไว้ชัดแจ้งว่าเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ถ้ามีหนี้ประเภทนี้เกิดขึ้นก็เป็นหนี้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบในหนี้ดังกล่าว
2) ความระงับแห่งหนี้ หนี้นั้นไม่ว่าจะระงับไปด้วยประการใดๆ เช่น ลูกหนี้ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ทั้งหมด หนี้ก็ระงับทั้งหมดหรือชำระหนี้ไปบางส่วนหนีก็ระงับไปบางส่วน หรือมีการกระทำอย่างอื่นเทียบได้กับการชำระหนี้เช่นการยอมรับเอาทรัพย์สินอื่นแทนการชำระหนี้ การวางทรัพย์การกลบในหนี้ การปลดหนี้เป็นต้น เมื่อหนี้ระงับไปด้วยเหตุต่างๆ ดังกล่าว ลูกหนี้ทุกคนย่อมได้ประโยชน์ด้วยกันหมดทุกคน
3) การผิดนัดของเจ้าหนี้ ตามมาตรา 294 นั้น หากเจ้าหนี้ผิดนัดต่อลูกหนี้คนหนึ่งย่อมถือว่าเจ้าหนี้อื่นผิดนัดด้วย คือลูกหนี้ได้ประโยชน์ด้วยกันในการที่เจ้าหนี้ผิดนัดต่อลูกหนี้ร่วมกันคนใดคนหนึ่ง ทั้งนี้ก็เพราะการเป็นลูกหนี้ร่วมนั้น เจ้าหนี้มีสิทธิที่จะเรียกให้ลูกหนี้ชำระได้โดยสิ้นเชิง และลูกหนี้จะเลือกชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้คนใดก็ได้ เมื่อลูกหนี้เลือกชำระหนี้ให้เจ้าหนี้แล้ว เจ้าหนี้ผิดนัดลูกหนี้อื่นก็ย่อมได้ประโยชน์ด้วยเพราะลูกหนี้มีหน้าที่จะต้องชำระหนี้โดยสิ้นเชิงให้แก่เจ้าหนี้แต่เพียงครั้งเดียว

นายมั่นกับนายเหมาะได้กู้เงินนายหมายไป 6,000 บาท โดยยอมตนผูกพันเป็นลูกหนี้ร่วมต่อมาเมื่อหนี้เงินกู้นี้ขาดอายุความแล้ว นายมั่นได้ชำระหนี้ให้แก่นายหมายไป 3,000 บาท แต่นายเหมาะไม่ยอมชำระหนี้ เช่นนี้ในหมายจะเรียกให้นายมั่นกับนายเหมาะชำระหนี้ที่เหลือให้แก่ตนได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
เมื่อหนี้ขาดอายุความแล้วลูกหนี้ไม่จำเป็นต้องชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ แต่เมื่อลูกหนี้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้แล้วลูกหนี้จะเรียกคืนไม่ได้ตามอุทาหรณ์ หนี้ขาดอายุความแล้ว นายหมายจะเรียกให้นายมั่นนายเหมาะชำระหนี้ร่วมที่เหลือไม่ได้ หากนายหมายนำคดีขึ้นฟ้องศาล ทั้งนายมั่นกับนายเหมาะมีสิทธิที่จะยกอายุความขึ้นต่อสู้เพื่อไม่รับผิดได้  แต่ถ้าหากผู้หนึ่งผู้ใดยกอายุความขึ้นต่อสู้แต่อีกคนไม่ยกเช่นนี้ การยกไม่ยกอายุความขึ้นต่อสู้นี้ย่อมเป็นไปเพื่อคุณและโทษแก่ลูกหนี้ร่วมคนนั้นโดยเฉพาะ

7.2.3      ความสัมพันธ์ระหว่างลูกหนี้ร่วม
นายมิ่ง นายมีและนายมา กู้เงินนายแมนไป 9,000 บาท โดยยอมผูกพันตนเป็นลูกหนี้ร่วม เมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระ นายมิ่งไม่ชำระหนี้และได้รับอุบัติเหตุจากรถชนกันจนแขนขาขาดทั้งหมดประกอบอาชีพไม่ได้ ไม่มีทรัพย์สินอะไรเลยที่จะนำไปชำระหนี้ได้ นายมีเองมีทรัพย์สินพอจะชำระหนี้แต่ก็ไม่ยอมชำระหนี้ นายมาจึงได้ชำระหนี้ให้แก่นายแมนไปทั้งหมด 9,000 บาท เช่นนี้ นายมามีสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาจากนายมิ่งและนายมีได้เพียงใดหรือไม่
มาตรา 296 บัญญัติว่าในระหว่างลูกหนี้ร่วมกันทั้งหลายนั้น ต่างคนต่างรับผิดเป็นส่วนเท่าๆ กัน เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ถ้าส่วนที่ลูกหนี้ร่วมกันคนใดคนหนึ่งจะพึงชำระนั้นเป็นอันจะเรียกเอาจากคนนั้นไม่ได้ ยังขาดจำนวนอยู่เท่าไร ลูกหนี้คนอื่นๆ ซึ่งจำต้องออกส่วนด้วยนั้นก็ต้องรับใช้
ฉะนั้นตามอุทาหรณ์นายมิ่งไม่มีทรัพย์สินอะไรจะชำระหนี้ นายมาจึงไม่สามารถจะเรียกให้นายมิ่งชำระได้ แต่นายมามีสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาส่วนที่จ่ายเกินไปจากนายมีได้โดยนายมีต้องรับผิดในส่วนของตน 3,000 บาท และเนื่องจากไม่สามารถเรียกให้นายมิ่งชำระหนี้ได้ นายมีกับนายมาจะต้องเฉลี่ยกันรับผิดชอบในส่วนของนายมิ่งอีกคนละ 1,500 บาท ฉะนั้นนายมามีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากนายมีได้จำนวน 4,500 บาท

7.3    เจ้าหนี้ร่วม
1.    เจ้าหนี้ร่วมคือ ในหนี้รายเดียวกันแต่มีบุคคลหลายคนมีสิทธิเรียกร้องการชำระหนี้โดยทำนองซึ่งแต่ละคนอาจจะเรียกให้ชำระหนี้สิ้นเชิง ถึงแม้ว่าลูกหนี้จำต้องชำระหนี้สิ้นเชิงแต่ผู้เดียว
2.    ในหนี้ที่มีเจ้าหนี้ร่วม ลูกหนี้จะชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้คนใดคนหนึ่งก็ได้ตามแต่จะเลือก แม้เจ้าหนี้คนหนึ่งจะได้ยื่นฟ้องเรียกชำระหนี้ไว้แล้ว
3.    เจ้าหนี้ร่วมเกิดขึ้นโดยนิติกรรมสัญญาและโดยบทบัญญัติของกฎหมาย
4.    เจ้าหนี้ร่วมคนหนึ่งผิดนัดย่อมเป็นโทษแก่เจ้าหนี้คนอื่นๆด้วย
5.    ถ้าสิทธิเรียกร้องและหนี้สินเป็นอันเกลื่อนกลืนกันไปในเจ้าหนี้ร่วมกันคนหนึ่ง สิทธิของเจ้าหนี้คนอื่นๆ อันมีต่อลูกหนี้ย่อมระงับไป
6.    เจ้าหนี้ร่วมกันคนหนึ่งรับชำระหนี้แล้ว เจ้าหนี้คนอื่นๆจะเรียกให้ชำระหนี้นั้นอีกไม่ได้ การรับชำระหนี้ให้รวมถึงการรับทรัพย์สินอย่างอื่นแทนการชำระหนี้และการหักลบหนี้ด้วย
7.    การที่เจ้าหนี้ร่วมกันคนหนึ่งโอนสิทธิเรียกร้องให้แก่บุคคลอื่นๆไป หากระทบกระทั่งถึงสิทธิของเจ้าหนี้คนอื่นๆ ด้วยไม่
8.    ถ้าเจ้าหนี้ร่วมกันคนใดคนหนึ่งปลดหนี้ให้แก่ลูกหนี้แล้ว มีผลให้หนี้นั้นระงับไปตามส่วนที่เจ้าหนี้ได้ปลดให้ ถ้าปลดหนี้ให้สิ้นเชิง เจ้าหนี้คนอื่นๆก็หมดสิทธิที่จะเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้อีก
9.    ถ้าข้อความจริงใดเท้าถึงเจ้าหนี้ร่วมกันคนใด ย่อมเป็นคุณและโทษแก่เจ้าหนี้คนนั้นโดยเฉพาะ ไม่กระทบกระทั่งถึงสิทธิของเจ้าหนี้ร่วมคนอื่นๆ

7.3.1      ลักษณะของเจ้าหนี้ร่วม
เจ้าหนี้ร่วมมีลักษณะสำคัญอย่างไร และความรับผิดในฐานะเจ้าหนี้ร่วมจะเกิดขึ้นได้ในกรณีใดบ้าง
เจ้าหนี้ร่วมมีลักษณะสำคัญตามที่บัญญัติในมาตรา 298 ดังนี้
1.    ในหนี้รายเดียว แต่มีเจ้าหนี้หลายคน
2.    เจ้าหนี้คนใดคนหนึ่งมีสิทธิที่จะเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้โดยสิ้นเชิง
3.    ลูกหนี้จะชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้คนใดคนหนึ่งก็ได้ตามแต่จะเลือก แม้ทั้งที่เจ้าหนี้ร่วมคนหนึ่งได้ฟ้องเรียกหนี้จากลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้ดังกล่าวก็ยังมีสิทธิที่จะเลือกชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ร่วมคนอื่นได้
ความรับผิดในฐานะเจ้าหนี้ร่วมนั้นเกิดขึ้นได้ 2 ประการคือ
ก.     โดยนิติกรรมสัญญา
ข.     โดยบทบัญญัติของกฎหมาย

7.3.2      ผลแห่งการเป็นเจ้าหนี้ร่วม
นายเด็ด นายดวง นายดำ เป็นเจ้าหนี้ร่วมให้นายเด๋อ กู้เงินไป 12,000 บาท ต่อมานายเด็ดตายและได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินมรดกทั้งหมดของตนให้แก่นายเด๋อดังนี้ นายดวง กับนายดำจะเรียกให้นายเด๋อชำระเงินให้แก่ตนได้หรือไม่เพียงใด
มาตรา 299 วรรคสอง บัญญัติว่า ถ้าสิทธิเรียกร้องและหนี้สินนั้นเป็นอันเกลื่อนกลืนกันไปในเจ้าหนี้ร่วมกันคนหนึ่ง สิทธิของเจ้าหนี้คนอื่นๆ อันมีต่อลูกหนี้ย่อมเป็นอันระงับสิ้นไป
ฉะนั้นตามอุทาหรณ์ เมื่อนายเด็ดตาย และนายเด๋อได้รับมรดกของนายเด็ด สิทธิเรียกร้องและหนี้สินจึงตกแก่นายเด๋อคนเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้หนี้รายนี้จึงเป็นอันระงับไป นายดวงกับนายดำจึงไม่มีสิทธิเรียกให้นายเด๋อชำระหนี้รายนี้ให้แก่ตนได้อีกเพราะสิทธิเรียกร้องของนายดวงกับนายดำที่มีต่อนายเด๋อเป็นอันระงับไปด้วย

7.3.3      ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหนี้ร่วม
ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 300 บัญญัติว่า ในระหว่างเจ้าหนี้ร่วมกันนั้นเห็นว่าต่างคนต่างชอบที่จะได้รับชำระหนี้เป็นส่วนเท่าๆ กัน เว้นแต่จะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นนั้น หมายความว่าอย่างไร
หมายความว่า ถ้าเจ้าหนี้คนใดคนหนึ่งได้รับชำระหนี้จากลูกหนี้ หรือทำการอย่างใดๆ ให้หนี้ระงับเช่น รับทรัพย์อื่นแทนการชำระหนี้ ปลดหนี้ให้แก่ลูกหนี้ หรือหนี้เกลื่อนกลืนกันไปในเจ้าหนี้ร่วมคนใดก็ตาม เจ้าหนี้ร่วมคนอื่นไม่มีสิทธิที่จะเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้อีกซ้ำสอง คงมีสิทธิที่จะเรียกเอาส่วนของตนจากลูกหนี้ที่รับชำระหนี้หรือกระทำการเสมือนการรับชำระหนี้ส่วนที่ว่านี้ถ้าไม่ได้ตกลงกันไว้ เจ้าหนี้ก็มีส่วนเท่าๆ กัน ถ้ามีข้อตกลงกันไว้ว่าเจ้าหนี้คนใดมีส่วนเท่าใดก็ให้เป็นไปตามที่ตกลง

แบบประเมินผลตนเองหน่วยที่ 7

1.    หนี้อันจะแบ่งกันชำระมิได้นั้นเกิดขึ้นได้จาก (ก) สภาพแห่งทรัพย์อันเป็นวัตถุแห่งการชำระหนี้ (ข) โดยผลของกฎหมาย (ค) โดยเจตนาของคู่กรณี
2.    ก. ข. และ ค. เป็นลูกหนี้ร่วมกันกู้เงิน ง. ไป 3,000 บาท ต่อมา ก. ล้มละลายไม่มีทรัพย์สินอะไรที่จะชำระหนี้ให้ ง. ได้  และ ข. ได้ชำระเงิน 3,000 บาทให้แก่ ง. ไปแล้วดังนี้ ข. จะเรียกเงินจาก ก. และ ค. ได้หรือไม่ คำตอบ ข. เรียกจาก ก. ไม่ได้แต่เรียกจาก ค. ได้ 1,500 บาท
3.    ก. ข. ค. เป็นลูกหนี้ร่วมกันกู้เงิน ง. ไป 6,000 บาท มีข้อตกลงระหว่าง ก. ข. และ ค. ว่า ให้ ก. รับผิดชอบ 1,000 บาท ข. รับผิดชอบ 2,000 บาท และ ค. รับผิดชอบ 3,000 บาท ดังนี้ ง. จะเรียกร้อง ก. ข. หรือ ค. ชำระหนี้ให้แก่ตนได้เพียงใด คำตอบ ง. เรียกร้องให้ ก. ข. ค. ร่วมกันหรือเรียกให้คนใดคนหนึ่งชำระหนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนก็ได้
4.    นายถวิลกับนายณรงค์ รับจ้างสร้างบ้านให้นายวิชัย ต่อมานายถวิลได้ขับรถบรรทุกไม้เพื่อจะนำไปสร้างบ้านไปชนกับรถยนต์บุคคลอื่นโดยประมาท ไฟไหม้รถและไม้ที่บรรทุกมาทั้งหมด เช่นนี้ นายถวิล นายณรงค์หรือนายวิชัย จะต้องรับผิดชอบที่ไม้เสียหายไปดังกล่าวหรือไม่ คำตอบ นายถวิลต้องรับผิดเพียงผู้เดียว นายณรงค์ไม่ต้องร่วมรับผิดด้วยเพราะความเสียหายเกิดแก่ความผิดของนายถวิล
5.    นายขาว นายเขียวและนายขม ทำสัญญากู้เงินนายขามไป 9,000 บาท ต่อมาปรากฏว่านายขาวเป็นผู้เยาว์ และนายขาวได้บอกล้างสัญญากู้แล้ว เช่นนี้ นายขาว นายเขียว และนายขม จะต้องรับผิดชำระหนี้ตามสัญญากู้หรือไม่เพียงใด คำตอบ นายขาวไม่ต้องรับผิด แต่นายเขียวกับนายขมรับผิดคนละ 3,000 บาท
6.    นายม้า นายแมว นายหมู เป็นลูกหนี้ร่วมกันกู้เงินนายเม่นไป 60,000 บาท ต่อมานายเม่นปลดหนี้ให้แก่นายม้า 20,000 บาท เช่นนี้ นายเม่นจะเรียกให้นายม้า นายแมว นายหมูชำระหนี้ให้แก่ตนได้มากน้อยเพียงใด คำตอบ นายเม่นเรียกให้นายม้าชำระหนี้ไม่ได้ แต่เรียกให้นายแมว นายหมูชำระหนี้ 40,000 บาทได้
7.    นายชอบ นายชัย ทำสัญญารับจ้างสร้างเรือยนต์ให้แก่นายชิต ต่อมานายชอบตาย นายชัยจะต้องรับผิดสร้างเรือให้นายชิตต่อไปหรือไม่ เพราะเหตุใด คำตอบ นายชัยจะต้องรับผิดสร้างเรือต่อไปจนเสร็จเพราะโดยสัญญาแล้ว นายชอบ นายชัย จะต้องร่วมกันรับผิดสร้างเรือให้เสร็จแม้ว่าอีกคนจะไม่สามารถร่วมสร้างให้ได้
8.    ก. ข. ค. เป็นเจ้าหนี้ร่วมกันให้ ง. กู้เงินไป 900 บาท โดยไม่มีกำหนดเวลาชำระ ต่อมา ง. ได้นำเงิน 900 บาท ไปชำระให้แก่ ก. แต่ ก. ไม่ยอมรับชำระ อ้างว่ากำลังจะเดินทางไปต่างจังหวัดไม่อยากเอาเงินไปจำนวนมากๆ ติดตัวไป เช่นนี้ ก. ข. ค. ตกเป็นผู้ผิดนัดหรือไม่ เพราะเหตุใด คำตอบ ก. ข. ค. ตกเป็นผู้ผิดนัดทุกคน เพราะ ก. ข. ค. เป็นเจ้าหนี้ร่วม
9.    ก. ข. ค. กู้เงิน ง. จ. ฉ. ไป 900 บาท กำหนดชำระคืนในวันที่ 10 มกราคม 2526 ถึงกำหนดชำระ ก. ข. ค. ไม่ชำระหนี้ ง. จ. ฉ.  จะเรียกให้ ก. ข. ค. ชำระหนี้อย่างไรจึงจะชอบด้วยกฎหมาย คำตอบ ง. จ. หรือ ฉ. คนใดคนหนึ่งเรียกให้ ก. ข. ค. ชำระเงิน 900 บาท ได้เพราะเป็นเจ้าหนี้ร่วมกัน
10. ก. ข. ค. ซื้อม้า 1 ตัว จาก ง. ถึงกำหนดส่งมอบม้าให้ ดังนี้ ก. ข. ค. จะมีสิทธิเรียกให้ ง. ส่งมอบม้าให้ได้หรือไม่เพราะเหตุใด คำตอบ ก. ข. หรือ ค. คนใดคนหนึ่งหรือทุกคนเรียกให้ ง. ส่งมอบม้าให้ได้หากทุกคนยินยอม
11. นายเขียว นายเหลือง กู้เงินนายขาวไป 5,000 บาท โดยมีข้อตกลงระหว่างนายเขียว นายเหลืองว่า นายเขียวจะรับผิดชอบ 2,000 บาท ส่วนนายเหลืองจะรับผิดชอบ 3,000 บาท ต่อมาหนี้ถึงกำหนดชำระ นายเขียวนายเหลืองไม่ชำระหนี้ นายขาวจะเรียกให้นายเขียวและนายเหลืองชำระหนี้ให้แก่ตนได้หรือไม่เพียงใด คำตอบ นายขาวเรียกให้นายเขียวหรือนายเหลืองชำระหนี้คนละ 2,500 บาท
12. ก. ข. ค. เป็นเจ้าของรถยนต์ ได้ขายรถยนต์ให้แก่ ง. ในราคา 50,000 บาท ง.ชำระเงินแล้วแต่ ก. ข. ค. ไม่ยอมรับมอบรถยนต์ ให้ ง. เช่นนี้ ง. จะดำเนินการอย่างไรจึงจะได้รับมอบรถยนต์มาโดยชอบด้วยกฎหมาย คำตอบ ง.เรียกให้ ก. ข. หรือ ค. คนใดคนหนึ่งส่งมอบรถยนต์ให้แก่ตนได้
13. ลูกหนี้ร่วมมีคุณลักษณะสำคัญอย่างไร คำตอบ ลูกหนี้ร่วมนั้นลูกหนี้แต่ละคนอาจถูกเจ้าหนี้เรียกชำระหนี้ได้โดยสิ้นเชิง
14. ก. ข. ค. ได้ว่าจ้างให้ ง. ไปฆ่า จ. ในราคาค่าจ้าง 12,000 บาท โดยทำเป็นหนังสือสัญญากู้ว่า ก. ข. ค. ได้ร่วมกันกู้เงิน จ. ไป 12,000 บาท เมื่อ ง. ฆ่า จ. ตายแล้ว ก. ข. ค. ไม่ยอมชำระเงินค่าจ้าง ง. จึงได้นำสัญญาเงินกู้ดังกล่าวมาฟ้องศาลเรียกเงินตามสัญญาเงินกู้ 12,000 บาท ดังนี้ ก. ข. ค. จะต้องรับผิดเงินตามสัญญาเงินกู้หรือไม่เพียงใด คำตอบ ก. ข. ค. ไม่ต้องรับผิดชำระเงินตามสัญญากู้ เพราะวัตถุประสงค์ตามสัญญาเงินกู้เป็นการขัดต่อกฎหมายโดยชัดแจ้ง สัญญากู้เป็นโมฆะ หนี้ตามสัญญาไม่เกิดขึ้น ลูกหนีทุกคนได้รับผลประโยชน์เหมือนกันหมดคือไม่ต้องชำระหนี้ตามสัญญา
15. ก. ข. ค. เป็นเจ้าหนี้ร่วมกันให้ ง. กู้เงินไป 15,000 บาท โดยลักษณะที่ให้ ง. ชำระหนี้ทั้งหมดให้แก่ผู้ใดก็ได้ เมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระ ง. นำเงิน 15,000 บาทไปชำระหนี้ให้แก่  ก. คนเดียว โดย ข. ก็รู้ แต่ ค. ไม่รู้ แต่ ก. ไม่ยอมรับชำระหนี้โดยไม่มีมูลที่อ้างกฎหมายได้ เช่นนี้ ก. ข. ค. ผู้ใดตกเป็นผู้ผิดนัด เพราะเหตุใด คำตอบ  ก. ข. ค. ตกเป็นผู้ผิดนัดทุกคนเพราะการผิดนัดของเจ้าหนี้ร่วมคนอื่นด้วย
16. นายดำ นายแดง นายดี ร่วมกันว่าจ้างนายดื่มให้สร้างเรือยนต์ให้ 1 ลำ ในราคา 100,000 บาท นายดื่มสร้างเรือให้แล้วเสร็จ แต่นายดำนายแดง นายดีไม่ยอมชำระค่าจ้างให้แก่นายดื่มตามสัญญา สิทธิเรียกร้องเงินเช่นนี้มีอายุความ 2 ปี ต่อมาอีก 3 เดือน จะขาดอายุความ นายดำชำระเงินค่าจ้าง 30,000 บาท และหลังขาดอายุความแล้ว 3 เดือน แดงชำระเงินให้ดื่มอีก 20,000 บาท จากนั้นก็ไม่มีผู้ใดชำระเงินให้แก่นายดื่มอีก นายดื่มจึงฟ้องเรียกเงินส่วนที่เหลือ 50,000 บาท จากนายดำ นายแดง และนายดีหลังจากคดีขาดอายุความแล้ว 6 เดือน ทั้งสามคนได้อ้างอายุความขึ้นต่อสู้ว่าคดีขาดอายุความแล้ว นายดื่มจะเรียกเงิน 50,000 บาท จากลูกหนี้ทั้งสามคนไม่ได้ ข้อต่อสู้ของนายดำ นายแดง และนายดี จะรับฟังได้หรือไม่ เพราะเหตุใด คำตอบ (ก) ข้อต่อสู้ของนายดำรับฟังไม่ได้เพราะนายดำชำระหนี้บางส่วนทำให้อายุความสะดุดหยุดลง เป็นเหตุให้อายุความเริ่มนับใหม่ ฟ้องสำหรับนายดำยังไม่ขาดอายุความ (ข) ข้อต่อสู้ของนายแดงว่าคดีขาดอายุความนั้นฟังขึ้น เพราะการชำระหนี้บางส่วนของนายแดงภายหลังที่คดีขาดอายุความนั้น ไม่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง (ค) ข้อต่อสู้ของนายดีว่าขาดอายุความนั้นฟังขึ้น เพราะนายดื่มฟ้องคดีเมื่อเลยเวลา 2 ปีแล้ว โดยนายดีไม่ได้ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
17. นายเอ นายบี และนายซี ได้ร่วมกันกู้เงินของนายดีไป 9,000 บาท โดยยอมเป็นลูกหนี้ร่วมกัน ต่อมาปรากฏว่าในขณะทำสัญญา นายเอเป็นผู้เยาว์ นายบีถูกนายซี่ ข่มขู่ให้ทำสัญญาเพื่อช่วยนายซี แต่นายบีไม่กลัวคำขู่และได้ทำสัญญาเพื่อช่วยนายซี ภายหลังทำสัญญากู้แล้ว นายเอ นายบี ได้บอกล้างสัญญากู้โดยอ้างว่าเป็นผู้เยาว์และถูกข่มขู่ตามลำดับ เช่นนี้นายเอ นายบี นายซี จะต้องรับผิดต่อนายดีหรือไม่เพียงใด คำตอบ นายเอไม่ต้องรับผิด ส่วนนายบีและนายซีจะต้องรับผิดในส่วนของตนรวม 6,000 บาท
18. นายวินิจ นายวิชิต นายวิรัชเป็นเจ้าหนี้ของนายวินัยเป็นเงิน 6,000 บาท ต่อมาปรากฏว่านายวินิจตาย ก่อนตายนายวินิจได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกของตนทั้งหมดรวมทั้งหนี้เงินรายนี้ด้วยให้แก่นายวินัย เช่นนี้ นายวิชิตและนายวิรัชจะมีสิทธิเรียกให้นายวินัยชำระเงินให้แก่ตนได้เพียงใดหรือไม่ คำตอบ นายวิชิต นายวิรัชมีสิทธิเรียกให้นายวินัยชำระเงินให้แก่ตนได้คนละ 2,000 บาท
19. ณ สำนักงานวางทรัพย์ได้ในกรณี ที่มีเจ้าหนี้ร่วมหลายคนลูกหนี้จะชำระหนี้ให้เจ้าหนี้คนใดคนหนึ่ง  แต่เจ้าหนี้อื่นไม่ยินยอม
20. ก. ข. ค. เป็นเจ้าหนี้ร่วมของ ง. เป็นเงิน 15,000 บาท ต่อมา ก. ได้ปลดหนี้ให้แก่ ง. จำนวน 5,000 บาท ดังนี้ ก. ข. ค. มีสิทธิที่จะเรียกให้ ง. ชำระได้เพียงใดหรือไม่ คำตอบ ชำระคนละ 5,000 บาท


No comments:

Post a Comment